ประเทศไทยได้ติดสถิติการเข้า Facebook เป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้ว
เมื่อฟังแล้วก็รู้สึกว่าคนไทยก็ hi technology ไม่แพ้ชาติอื่นเลย
แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่งกลับทำให้เห็นว่าคนไทยได้การตกเป็นทาสของโลก cyber มากขึ้นไปทุกขณะ
เมื่อเทียบกับประเทศที่เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าทาง technology อย่างญี่ปุ่นแล้ว
การเรียนการสอนและการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นกลับไม่หมกมุ่นกับโลก cyber
เหมือนชาติอื่น สังเกตได้จากห้องเรียนที่แสนเรียบง่ายในโรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่น ทั้งของรัฐบาลและเอกชน
สิ่งที่อยู่ในห้องเรียนก็จะมีเปียโน 1 หลัง โทรทัศน์ 1 เครื่อง และเครื่องบันทึกแบบกระเป๋าหิ้ว
1
เครื่อง เท่านั้น สำหรับของเล่นเด็กก็มีเพียงกระดาษแข็ง กล่องบรรจุขนาดต่างๆ
หนังสือพิมพ์ เชือกไนล่อน ตะเกียบไม้ และหนังสือจำนวนมาก เพื่อให้เด็กได้ขีดเขียน
และตัดแปะได้ตามใจชอบ เป็นการเสริมพัฒนาจินตนาการให้เด็กได้มาก
ทุกอย่างดูไม่ทันสมัย ไม่แพงหรู ขัดกับความเป็นเจ้าแห่งโลกเทคโนโลยีอย่างสิ้นเชิง
เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของเด็กมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
ซึ่งเด็กจะได้ประโยชน์ไปตลอดชีวิต
ในวิชาอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เช่นวิชาพละ ที่จะมีแค่อุปกรณ์ง่ายๆ
แค่เบาะรอง และอุปกรณ์สำหรับเล่นกีฬาเท่านั้น เล่นม้ากระโดด เป็นต้น
แม้กระเป๋าที่ต้องใช้ในโรงเรียนก็จะมีด้วยกันอีกหลายขนาด
ใบเล็กไปจนถึงใบใหญ่หลายใบใส่ซ้อนกันมาหลายชั้นเลย ตั้งแต่กระเป๋าหนังสือ
กระเป๋าเสื้อผ้าที่ยังไม่ใช้ กระเป๋าเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว กระเป๋าเครื่องครัว กระเป๋ารองเท้า
ดูแล้วยังน่าปวดหัว แต่สิ่งที่เค้าฝึกเด็กๆ
ก็คือการให้เค้าได้รู้จักแยกแยะประเภทของใช้ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
วินัยเหล่านี้ทำให้คนญี่ปุ่นสามารถแยกขยะได้กันทุกครัวเรือน วันนี้ทิ้งขยะเปียก
พรุ่งนี้ทิ้งขยะแห้ง วันมะรืนทิ้งขยะ Recycle
ทุกวันนี้ทำให้ญี่ปุ่นเป็นเมืองสะอาด พร้อมกับเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าของโลกได้
สำหรับตอนต่อไปมาดูกันต่อว่าญี่ปุ่นเค้ามีการฝึกเด็กยังไงให้ มีทั้งระเบียบ วินัย ความอดทน เป็นเลิศได้ขนาดนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น