วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Refocusing on school - helping kids succeed in school


(UN) - As the school year passes the halfway point, some kids may get distracted from their studies. If you and your kids want to re-focus on school success, here are some suggestions for kick-starting learning:

Commit to learning

With your children, come up with one or two major goals that you want to accomplish for the remainder of this school year. Raising that algebra grade? Getting homework done on time and turning it in the next day? Organizing a study area at home? Using a planner regularly and efficiently? Agree on some age-appropriate rewards and consequences. Commit to a family-centered goal that education is important to all of you, and work together to support, encourage and help each other.

Set up helpful routines

Give your kids the consistency of fairly regular routines (weekends and holidays can be breaks). Bedtime, wake-up, study, homework, play, family time -- kids rely on these routines, and the structure helps them to feel safe, know what's expected of them and be successful.

Help them organize

Organized kids do better in school than haphazard kids. Help them to set up their planners (written or electronic), to keep their notebooks and backpacks neat and orderly, to break up large assignments into smaller ones so they don't seem overwhelming, to maintain a work space at home that's actually workable and not a disaster area, and to stick to the goals you've set together.

Maintain healthy habits

Healthy kids are better learners. Help your children by monitoring their screen time (TV, video games, cell phones, etc.), making sure they're getting enough sleep, insisting on their good eating habits, making sure they're involved in regular and aerobic exercise, and sticking to the goals and routines you've established.

Be a good role model

Kids learn from their parents. If they see that you're organized, focused on what's important to you and your family, staying healthy and being true to your values, they'll pick up some pretty important life lessons.

Don't give up

Let your kids know that you're serious about these goals and that their school success is as critical to you as it is to them.

Get help early if you need it

When your kids show that they're having trouble despite your best efforts, get help early. Ask a teacher or guidance counselor for help. Get a tutor. Find a "study buddy" for your kid. Just get help before the little problem grows into a big one.

Ask other parents

You're not the only one trying to keep your kids on track. Learn from parents who've been through this, teachers who've guided hundreds of kids and others whose opinions you respect. No one has all the answers, but all of us have a lot of ideas.


วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หัดลูกรักให้ทานผัก

   เด็กๆ หลายคนไม่ทานผัก หรือทานผักไม่เป็น ด้วยเพราะกินเฉพาะของผักที่ทำให้ลูกไม่คุ้นเคย หรืออาจเป็นนิสัยที่ไม่กินผัก บางคนคิดว่าลูกไม่กินผัก เวลาสั่งอาหารตามร้านก็จะไม่ใส่ผักให้เพราะคิดว่าเด็กไม่กินผักจะเสียของ เมื่อโตมาเป็นผู้ใหญ่ก็ติดนิสัยไม่ทานผักชนิดนั้นๆ ไปด้วย ตัวอย่าง ก๋วยเตี๋ยวไม่ใส่ผัก ไม่ใส่ถั่วงอก หรือราดหน้าไม่ใส่ผักอะไรแบบนี้
   ถ้าบ้านไหนที่คุณแม่บ้านทำอาหารเอง ส่วนใหญ่เด็กจะทานเพราะคุ้นเึคยและทานง่าย กว่าอาหารที่สั่งตามร้าน และวิธีการทำอาหารเพื่อเด็กก็ใส่ใจมากกว่า ด้วยกลเม็ดเด็ดพราย เช่น การหั่นผักให้ละเอียด ใส่หลายๆ ชนิดเข้าด้วยกัน หรือการบดเพื่อให้ผักเข้ากับเนื้อต่างๆ เมื่อได้เป็นอาหารแล้วเด็กจะทานง่าย และเมื่อคุ้นกลิ่นผักแล้ว เมื่อทำเป็นอาหารสำหรับผู้ใหญ่ ลูกๆ ก็จะทานได้ เด็กที่ได้ทานผัก ผลไม้ จะได้รับวิตามินและเกลือแร่ และสารอาหารครบถ้วน
   แต่ละบ้าน แต่ละภาค ก็มีผักต่างๆ หลายชนิด เด็กท้องถิ่นภาคอีสานส่วนใหญ่จะทานผักเก่ง ได้หลายอย่าง เพราะอาหารส่วนใหญ่ค่อนข้างเค็ม และเผ็ด ทำให้ต้องทานคู่กับผักจึงจะทานได้ ทำให้เด็กๆ ทานผักเก่ง ได้หลายประเภท ได้รับสารอาหารหลากหลาย ทำให้แม้จะผอม ตัวเล็ก แต่ก็แข็งแรง สำหรับเด็กในเมืองที่อาหารส่วนใหญ่จะได้มาจากตลาดที่มีผักไม่กี่อย่าง ก็จะได้ทานผักชนิดเดิมซ้ำๆ ถ้าผักนั้นล้างไม่สะอาดมีสารพิษตกค้าง เด็กๆ จะได้รับสารพิษเดิมๆ ซ้ำ ทำให้ป่วยได้ง่าย
   ดังนั้นควรหาผักหลายๆ ชนิดให้ลูกได้หัดทาน และควรล้างให้สะอาด เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกคุณ

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รักลูก สอนลูกให้รักนวลสงวนตัว

    พ่อแม่หลายคนกลุ้มใจเมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว คือเด็กมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ไม่เชื่อฟัง อยากรู้ อยากลอง คบเพื่อน ไม่ค่อยอยู่กับบ้าน หรือชอบอยู่คนเดียวในห้อง อีกปัญหาหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมคือ การท้องก่อนแต่ง หรือท้องระหว่างการศึกษา พ่อแม่โทษเด็ก เด็กโทษผู้ใหญ่ โทษสังคม การโทษกันไปมาไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่กลับจะเพิ่มปัญหาให้มากขึ้น แม้จะเปลี่ยนกฏหมายก็ยังเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
   วิธีที่ดีที่สุด เริ่มจากจุดที่เล็กที่สุด คือ ครอบครัวของคุณเอง ป้องกันดีกว่าแก้ไข เริ่มต้นวันนี้ดีกว่าแก้ไขวันหน้า ลองดูวิธีที่จะช่วยป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันภัยให้กับลูกของคุณ
   1. ทำบ้านให้สะอาด น่าอยู่ ไม่รกรุงรัง จัดข้าวของให้เป็นระเบียบ ไม่มีมุมอับมุมทึบ ตั้งแต่ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องพระ จัดให้ดูสบายตา มีข้าวของพอที่เราใช้ เพราะบ้านที่สะอาดก็เหมือนบ้านใหม่เสมอใครๆ ก็อยากเข้า อยากใช้
   2. ควรมีการประชุมสมาชิกในบ้านอยู่เป็นประจำ อาจเป็นการทานข้าวเย็นร่วมกัน เป็นการสร้างความอบอุ่น และเมื่อมีปัญหาอะไรจะได้รู้และช่วยกันดูแลแก้ไข เช่น ลูกทะเลาะกัน พ่อแม่จะได้รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร จะแก้ปัญหาอย่างไร จะหาแนวทางการสร้างความรักความสามัคคีอย่่างไร
   3. แบ่งหน้าที่ให้ทุกคนในบ้าน เพื่อฝึกความรับผิดชอบ แบ่งหมุนเวียนกันไป ตั้งแต่ การขัดห้องน้ำ ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ
   4. ในวันหยุดควรมีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน เช่น ไปวัดทำบุญ เยี่ยมผู้ใหญ่ ดูแลสวน เลี้ยงเด็กอ่อน สลับเปลี่ยนหมุนเวียนอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เค้าได้รู้จักสังคมที่ดีๆ
   5. ให้ลูกพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านได้เป็นครั้งคราว เพื่อจะได้รู้ว่าเพื่อนของลูกเป็นคนอย่างไรและช่วยคัดกรอง แนะนำการคบเพื่อนให้ลูก อาจมีกิจกรรมเล็ก จัดที่ห้องนั่งเล่น
   6. แนะนำให้ลูกเข้าใจว่าห้องนอนเป็นที่ส่วนตัว ไม่ควรให้เพื่อนผู้ชายมาอยู่ในห้องสองต่อสอง แม้พ่อแม่ไม่อยู่ก็ไม่ควรทำ
   7. เมื่อลูกมีปัญหา ให้ถือโอกาสที่คุณจะได้เข้าไปพูดคุยถึงปัญหา และช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ลูกของคุณ อย่าให้ลูกต้องเิผชิญปัญหาหรือแก้ปัญหาแต่เพียงผู้เดียว ให้ลูกรู้ว่าเค้ายังมีแม่หรือพ่ออยู่เป็นกำลังใจและเป็นที่ปรึกษาช่วยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้ลูกได้
   8. สอนให้ลูกได้รู้จักการทำบุญ ทำทาน รักษาศีล และนั่งสมาธิ เป็นประจำ เพราะเราคนไทยโชคดีที่ยังมีพระพุทธศาสนาที่จะช่วยให้จิตใจของเราสดชื่น รู้จักการให้ การแบ่งปัน การอดทนอดกลั้น และรู้จักยับยั้งชั่งใจ

การเลี้ยงลูกควรให้เวลา ให้ความรัก ความเข้าใจ ให้กำลังใจ เพื่อให้เค้าก้าวเข้าไปสู่สังคมอย่างกล้าหาญ มีภูมิคุ้มกันจากภัยต่างๆ รอบตัว ได้ด้วยตัวเอง